นกพิราบและกาได้อาศัยรังอยู่ใกล้ๆ กันด้วยความอนุเคราะห์จากพ่อครัว
อันพระพุทธวัจนทั้งหมดทั้งสิ้นที่ผ่านความยาวนานของกาลเวลามากกว่า 2500 ปีนั้น มีพระธรรมคำสอนเพียงไม่กี่ข้อที่ผู้คนในโลกจำกันขึ้นใจ บุคคลพึงสำเร็จได้ด้วยความเพียรก็เป็นพระพุทธธรรมข้อหนึ่งที่เราจดจำนำไปปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง การปฏิบัติกิจใดโดยความเพียรก็ย่อมมีข้อขันติอดทน ไม่มีใจโลเลเป็นสิ่งนำสู่ความสำเร็จด้วยดังเห็นการนำไปสู่การตรัส กโปตกชาดกในพระเชตะวันมหาวิหาร ณ พุทธกาลครั้งหนึ่ง
ภิกษุหนุ่มผู้มีใจโลเลในการประพฤติธรรม
กาลครั้งนั้นยังมีภิกษุรูปหนึ่งมีนิสัยโลเลบางครั้งก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด แต่บางครั้งก็เบื่อหน่ายเลิกล้มความพากเพียรลง “นั่งสมาธิ(Meditation)อยู่นานแล้ว ใยจิตใจของเรายังไม่สงบนะ เฮ้อ..มันชั่งยากจริงๆ” บางครั้งภิกษุท่านนี้ถึงขนาดท้อแท้ขาดกำลังใจไม่อาจกระทำความเพียรไปได้อย่างสม่ำเสมอ
ภิกษุหนุ่มท้อแท้ใจในการปฏิบัติธรรมของตน
“โธ่เอ้ย..เวรกรรมอะไรของเรานะ” เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดด้วยพระกรุณาธิคุณแก่ภิกษุผู้มีจิตใจโลเลนั้นด้วยเรื่องราวในอดีตชาติที่พระองค์เคยเกื้อกูลสั่งสอนกันมาก่อน ทรงระลึกชาติครั้งนั้นด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณผ่านเวลาย้อนไปในชาติภพหนึ่งในพาราณสี ณ กาลนั้นมีพ่อครัวจิตใจดีคนหนึ่ง มีหน้าที่ซื้ออาหารมาปรุงรสเลี้ยงดูทุกคนในตระกูลของนายจ้าง
เมืองพาราณสีที่เจริญรุ่งเรืองและสงบร่มเย็น
พ่อครัวคนนี้ซื่อตรงมีวินัยและจิตใจดี “อือ...วันนี้ตลาดมีของสดเยอะแยะเลย อะไรๆ ก็น่าซื้อน่ากินไปซะหมด ของดีๆ สดๆ ทั้งนั้นเลย” ทุกครั้งเมื่อซื้อผักพืชผลใดๆ มาได้ ก็แบ่งคัดเพื่อปรุงให้กับเศรษฐีนายจ้างและเหล่าบริวารเหมาะสมตลอดมา “อันนั้นนะ ส่วนของท่านเศรษฐีน่ะ เอ้า..อันนี้นะ ส่วนของเจ้า ไปปรุงกินกับสามีเจ้าเถิด”
พ่อครัวประจำบ้านท่านเศรษฐีหาซื้อกับข้าวในตลาด
“ขอบคุณมาก เดี๋ยวข้าทำเสร็จแล้วจะตักแบ่งมาให้ท่านด้วยนะ” “เฮอะๆๆ ไม่เป็นไรหรอกพวกเจ้าทานกันให้อิ่มเถอะ สามีเจ้าทำงานหนักมาทั้งวัน คงจะหิวแล้วหล่ะ ไม่รู้แค่นี้จะพอหรือเปล่าน่ะ” “ฮ้าๆๆ” “เออๆๆ รีบไปทำเข้าเถอะ ไม่ต้องมาประชดข้าหรอก” ที่ชายคาโรงครัวนั้นพ่อครัวใจบุญได้นำตะกร้ารองด้วยใบหญ้าเป็นรังให้นกพิราบตัวหนึ่งได้พักอาศัย
พ่อครัวแบ่งกับข้าวให้กับบริวารอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ
นกพิราบออกไปกินอาหารในละแวกเมืองพาราณสีแต่เช้า ใกล้อาทิตย์ตกก็กลับมานอนรังของตน มิเคยรบกวนให้พ่อครัวร้อนใจ “รังนี้อุ่นจัง พ่อครัวใจดีแท้อุตส่าห์ทำรังให้เราอยู่” จนกระทั่งมีอีกาตัวหนึ่งเข้ามาตีสนิทคบหากัน อีกาตัวนั้นแวะเวียนมามิได้ห่าง “กา กา วันนี้เราไปหากินทางตะวันตกบ้างนะไกลหน่อย แต่ของอร่อยเยอะมาก ขอบอก”
พ่อครัวทำรังให้นกพิราบอาศัยบริเวณชายคาโรงครัว
“ได้สิจ๊ะแม่กา มารับแต่เช้าทุกวันเลยนะ ไปกันเถอะ พูดแล้วข้าก็ชักหิว” ตอนเช้ากาจะมารอใกล้ๆ รังนกพิราบแล้วบินออกไปด้วยกัน พอเย็นก็แวะลงมาส่งจนเป็นปกติที่มิตรสหายปฏิบัติต่อกัน “โอ้..ช่วงนี้อากาสหนาว เจ้านะรีบเข้ารังซะตั้งแต่วันเถอะ เราไปก่อนหล่ะ” “จ้า แล้วพรุ่งนี้เช้าเจอกันเหมือนเดิมนะ เจ้าก็บินกลับรังดีๆ ละ”
แม่กาตัวหนึ่งเข้ามาตีสนิทกับนกพิราบเพราะต้องการเป็นเพื่อนด้วย
นานวันเข้าอีกาก็ยิ่งทำตัวสนิทเข้าใกล้ชิดจนถึงรังที่อยู่อาศัยของนกพิราบอย่างเปิดเผย “ยังไม่ตื่นอีกหรือนกพิราบ กา กา กา เพื่อนที่แสนดีมารับแล้วจ้า กา กา” “ตายจริง..นี่เจ้ามารับเราถึงรังเลยเหรอ” “ก็ข้าไม่เห็นเจ้าออกมาสักที ก็เลยมาหานะซิ ว่าแต่รังเจ้านี่น่าอยู่จังนะ” “ใช่ซิจ๊ะ พ่อครัวเค้าทำไว้ให้นะ อุ่นมากเลยนะ”
แม่กามารับนกพิราบเพื่อออกไปหากินด้วยกันเป็นประจำทุกวัน
อีกานั้นช่างพูดช่างเจรจาอีกทั้งคบหากันมาหลายวันก็ไม่ได้ทำผิดคิดร้ายอะไร นกพิราบก็เริ่มใช้ชีวิตอย่างปกติสุขคลายความทุกข์จากการระแวงอีกาลงไป “มีแม่กาเป็นเพื่อนนี่ก็ดีเหมือนกันหายเหงาได้เลยเรา” พ่อครัวรู้เห็นการคบค้าสมาคมของนกพิราบกับอีกาอยู่ตลอดเวลาจึงสงเคราะห์ด้วยการแขวนรังใหม่ขึ้นอีกรังหนึ่งให้อีกา “เอ้าๆๆๆ มาอยู่ใกล้ๆ กันซะ จะได้มีเพื่อน อือ..”
พ่อครัวสร้างรังให้แม่กาได้อาศัยอยู่ใกล้กับนกพิราบ
“กา กา กา กา กา พ่อครัวใจดีที่สุดเลยตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ กา กา กา” “อย่าเอ็ดไป..จะรบกวนพ่อครัวกับคนในครัวเค้า” “แหม่..ก็ข้าดีใจนะ กา กา กา อุ๊ยตาย รังอุ๊น อุ่น น่านอนจริงๆ” เมื่อได้สิทธิเสมอกัน อีกาจึงเริ่มตีตนออกห่าง ไม่บินไปหากินพร้อมกันดังเคยปฏิบัติ “กา กา กา เจ้าไม่ควรเถลไถลหากินจนมืดค่ำเกินเวลาอย่างนี้เลย ไม่ดีน่า”
นกพิราบออกไปหากินตามลำพัง
“วันนี้เราออกไปกินไกลหน่อยนะ แล้วทำไมแม่กาไม่ไปด้วยกันหล่ะ” “โอ้ย..ข้าไม่อยากไปไกลหรอก กินใกล้ๆ นี่แหละจะได้กลับมานอนในรังอุ่นๆ เร็วๆ” ที่ประหลาดมากกว่านั้นบางวันอีกาทำท่าเหมือนไม่อยากออกไปหากิน ซึ่งผิดจากธรรมชาติของกาทั่วไป “อุ๊ย..น่ากินจัง ปลาทะเลนึ่งซีอิ๋ว ปลานึ่งบ๊วยก็มี ปลาต้มเค็ม ปลาสามรสอีก อูยยย....เห็นแล้วน้ำลายสอเลยเรา”
แม่กาแอบมองอาหารในครัวด้วยความหิวกระหาย
ในโรงครัวมักมีอาหารคาวที่อีกาโปรดปรานมายั่วน้ำลายมันอยู่เสมอๆ สิ่งนี้จึงทำให้อีกาเกิดความอยาก ไม่ต้องการไปหาอาหารที่อื่น อยากลิ้มรสอาหารในโรงครัวแทน “วันนี้มีแต่ปลาตัวโตๆ สดๆ ทั้งนั้นเลย ท่านเศรษฐีต้องชอบใจแน่ๆ เลย” “งั้นเดี๋ยวข้าคัดตัวเล็กๆ หน่อยไปตากไว้ทำเป็นแดดเดียวบ้าง ดีไหมพ่อครัว”
แม่การอจังหวะและโอกาสที่จะเข้าไปกินอาหารในโรงครัว
“เออ..ดีๆๆ แขวนระวังๆ ล่ะ อย่าให้มดหรือแมลงวันมาตอมแล้วกัน” บางครั้งพ่อครัว แม่ครัวก็เอาปลาบ้างเนื้อบางมาแขวนผึ่งลมไว้ใกล้หน้าต่าง อีกาทนกลืนน้ำลายอยู่ไม่ไหว เกิดอยากขโมยกินตามสันดานของกา “อึมม....ปลาน่ากินจัง โอ้ย...หอมเหลือเกิน ของโปรดเราทั้งนั้น หนอนตัวโตแค่ไหนรสชาติก็สู้เนื้อปลาไม่ได้ อู๊ยย...น่ากินเหลือเกิน”
แม่กาแสร้งทำเป็นป่วยไม่ออกไปหากินกับนกพิราบ
วันหนึ่งอีกาแสร้งทำเป็นปวดท้องบินไม่ไหวขอหยุดนอนในรังหนึ่งวัน แต่นกพิราบนั้นรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมจึงเตือนด้วยเห็นว่าเป็นมิตรสหาย “อู๊ย...วันนี้เราปวดท้องเหลือเกินสงสัยจะออกไปหากินกับเจ้าไม่ได้แล้วหล่ะ อูยปวดท้อง อู้ย...กา กา กา อูย สงสัยท้องเสียแน่เลย” “เจ้ากาเอ๋ยสัญชาติกานั่นนะ ไม่มีโรคปวดท้องมารบกวนหรอก
แม่กาแอบเข้าไปกินอาหารในโรงครัว
เรารู้ดีนะว่าธรรมชาติของกานั่นนะย่อมหิวไม่เคยอิ่ม เรารู้ว่าเจ้ามีแผนอะไรในใจ ไม่ควรนะเจ้า” “เจ้าอย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่ะ เรานะไม่อยากจะกินหนอนอะไรอีกแล้ว ดูซิในครัวมีแต่ปลาตัวโตๆ ทั้งน้าน..เจ้านะไปเถอะเราจะกินของในครัวนี่แหละ” “อาหารนั้นนะ พ่อครัวเก็บไว้สำหรับมนุษย์พวกเค้า เราควรออกไปหากินประสาเราเถอะ
แม่กาถูกพ่อครัวจับได้เพราะแอบขโมยกินอาหาร
อย่าเห็นแก่ปาก อย่าอยากตามท้องเลยเจ้ากาเอ้ย” “เจ้าไม่ต้องมาสั่งสอนข้าเลย สัญชาติกาก็ต้องกินปลา มันเป็นของคู่กัน มื้อนี้หวานปากแน่ๆ” “เฮ้อเจ้ากา เราเตือนเจ้าแล้วนะ” เมื่อกาไม่ยอมทำตามนกพิราบก็จำต้องออกจากรังไปหากินตามลำพัง “เจ้ากาเอ้ย ถ้าเจ้าเห็นแก่ความอยากเช่นนี้ เจ้าต้องได้รับกรรมสนองแน่”
นกพิราบกลับมาเจอแม่กาในสภาพที่ถูกถอนขนชะโลมด้วยน้ำเกลือและเนยเปรี้ยว
เมื่อนกพิราบออกไปจากรัง อีกาก็รอจนในโรงครัวเงียบเสียงลง ก็กระโดดเข้าไปบนโต๊ะเตรียมอาหาร “ว๊าว..ปลากะพง อุ๊ย..เนื้อตุ๋น ไม่มีใครอยู่เฝ้าด้วย มื้อนี้ขอละกัน ลาภปากจริงๆ อุ๊ย..หวานๆๆ” แต่แล้วอีกาก็คิดผิดและตกใจจนแทบสิ้นสติ เพราะพ่อครัวเข้ามาพบเข้าอย่างจัง “กา กา กา ตายแล้ว พ่อครัวปิดประตูหน้าต่างขังเราแล้ว กา กา กา คราวนี้ตายแน่ๆ”
แม่กาทนความเจ็บปวดไม่ไหวสิ้นใจตายในที่สุด
หลังจากไล่ต้อนอยู่ไม่นานอีกาก็โดนพ่อครัวจับตัวไว้จนได้ “เสร็จข้าละ เจ้ากาเนรคุณให้พักอาศัยดีๆ ยังไม่สำนึกอีก อยากจะกินเนื้ออบรึ! ดี ข้าจะเอาเจ้ามาหมักดูบ้าง” “กา กา กา ข้าผิดไปแล้วปล่อยข้าไปเถอะ ฮือๆๆ กา กา กา” กรรมสนองกรรมของอีกาครั้งนี้ นกพิราบได้มาพบเห็นก็เย็นมากแล้วจึงได้แต่เวทนามัน “โธ่เอ้ย..ถูกถอนขนชะโลมน้ำเกลือและเนยเปรี้ยวขนาดนี้นะเห็นทีเจ้าต้องตายแน่” “กา กา กา โอ๊ย..เหม็น แสบไปทั้งตัว ฮือๆๆ”
นกพิราบขอบคุณพ่อครัวที่ได้ให้ที่พักอาศัยแก่ตน
“อันความทุกข์ใหญ่หลวงของเจ้าเนี่ย เกิดเพราะนิสัยโลเลทำดีไม่ตลอดและโลภมากนั่นเอง” ไม่ทันสิ้นแสงตะวันอีกาใจโลเลก็สิ้นลมหายใจตาย ซ้ำยังทิ้งความเดือดร้อนไว้เบื้องหลังเป็นบาปติดตัวไปยังนรก “เฮ้อ กาตัวเนี่ยทำให้พ่อครัวไม่ไว้ใจเสียแล้ว ขืนอยู่ต่อไปก็คงมีอันตรายเข้าสักวัน นับว่าเราไว้ใจคบคนชั่วเป็นมิตรแท้ๆ เฮ้อ”
พระพุทธองค์ทรงแสดงอริยสัจ 4
รุ่งอรุณจับขอบฟ้าวันต่อมานกพิราบก็กล่าวขอบคุณพ่อครัวที่อนุเคราะห์ที่พักอาศัยมานาน อย่างสำนึกในพระคุณแล้วออกเดินทางไปหารังใหม่อาศัยต่อไป จนสิ้นอายุขัย พระพุทธองค์ตรัส กโปตกชาดกจบแล้วทรงแสดงอริยสัจ 4_โดยเอนกปริยาย ภิกษุผู้ละความเพียรเพราะใจโลเลก็รู้เหตุและน้อมนำพระธรรมเทศนาเป็นกำลังใจปฏิบัติดีได้ในบัดนั้น ผู้ใดบุคคลกล่าวสอนอยู่ ไม่ทำตามคำสอนของผู้ปรารถนาดีผู้อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ผู้นั้นย่อมถึงความหายนะเศร้าโศกอยู่เหมือนกาไม่เชื่อฟังคำของนกพิราบต้องตกอยู่ในกิเลสฉันนั้น
ในพุทธกาลสมัย อีกากำเนิดเป็น ภิกษุผู้จิตใจโลเล
นกพิราบเสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
โย อัตถะกามัสสะ หิตานุกัมปิโน
โอวัชชะมาโน นะ กะโรติ สาสะนัง กโปตะกัสสะ
วะจะนัง อะกัตวา อมิตตะหัตถัตโตวะ เสติ
http://dmc.tv/a11445