ครั้งเมื่อพระพุทธศาสดาเสด็จสู่แคว้นสักกะแห่งศากยวงศ์ พร้อมพระโมคคัลลานะ
พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องซ้ายและขวาและสังฆสาวกทั้งมวล
พุทธกาลครั้งนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์นคร
หลวงของแคว้นสักกะ เพื่อแสดงธรรมโปรดพระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จมายังกรุงกบิลพัสดุ์
เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงพระเจ้าสุทโธทนะและพระประยูรญาติทูลนิมนต์เสด็จเข้า
ประทับยังพระราชนิเวศน์ตามประเพณี
“ศากยวงศ์ของเราเตรียมพระพุทธอาสน์ไว้เป็นอันดีแล้วยังพระราชฐานชั้นในพระพุทธเจ้าคะ” “ขออาราธนาพระพุทธองค์เสด็จโปรดยังเขตระโหฐานชั้นในด้วยเถิดพระเจ้าคะ”
พระนางยโสธราทรงรอคอยการเสด็จกลับมาของเจ้าชายสิทธัตถะ
การทูลนิมนต์ให้เสด็จโปรดราชนิกูลเขตระโหฐานชั้นในครั้งนั้นเพราะพระประยูรญาติต้องการดับทุกข์โศกแห่งพระนางยโสธราพิมพาผู้เคยเป็นมเหสีในพระสิทธัตถะนั่นเอง “อันยโสธราพิมพานั้นมีจิตใจภักดีมั่นคงเหลือเกิน ขณะที่พระศาสดาเจ้าออกผนวชนั้น ก็มิได้มีความสุขสำราญได้สักวันเดียว
เจ้าชายต่างเมืองล้วนมีใจปฏิพัทธ์ต่อพระนางยโสธรา
เธอเก็บพระองค์เงียบอยู่แต่ในพระราชฐานที่ประทับ
ทุกทิวาราตรีก็ไม่มีเสียงเพลงพิณขับกล่อมดังที่เคยเป็น
แม้ความงดงามและจริยาวัตรเป็นที่เลื่องลือมานานปี แต่พระนางก็หาได้ใยดีไม่
และไม่เคยแม้สักครั้งที่พระองค์จะยินดีต่อเจ้าชายเมืองใด”
“ทำไม?..พระนางยโสธราพิมพาช่างไม่สนใจใยดีเราแม้สักนิด”
พระนางยโสธราก้มกราบแทบพระบาทองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
“เฮ้ย เราก็ดูสง่างามภูมิฐานขนาดนี้ พระนางก็ยังไม่เหลียวแล”
“พระนางซื่อสัตย์และมั่นคงน่ายกย่องยิ่งนัก เฮ้อ..เราคงหมดหวังแล้วสิเนี่ย”
เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จถึงพระตำหนักชั้นใน
พระนางยโสธราพิมพาก็ทรุดองค์ลงกราบแทบพระบาท
กรรแสงร่ำไห้ต่อหน้าพระพักตร์ตามวิสัยสตรี
พระเจ้าสุทโธทนะและพระนางยโสธราได้อาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรม
“หม่อมชั้นดีพระทัยที่พระองค์เสด็จมาเพคะ” เพื่อ
บรรเทาความเสียใจ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงความดีของพระนางขึ้นเป็นข้อสังเกต
แล้วตรัสถึงอดีตชาติหนึ่งที่เคยใช้ชีวิตคู่กันยังภูเขาคันธมาส
ซึ่งพระนางพิมพาขณะนั้นก็จงรักภัคดีต่อพระองค์มิได้ด้อยกว่ากาลเวลานี้เลย
เจ้าเมืองผู้มีนิสัยโปรดปรานการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ
หลายภพหลายชาติผ่านมาเธอเคยร่วมทุกข์สุขแม้กระทั่งเสียสละชีวิตให้กันก็เคย
มาสิ้นแล้ว
ตรัสดังนั้นพระเจ้าสุทโธทนะพระประยูรญาติฝ่ายศากยวงศ์และพระนางยโสธราพิมพา
จึงใคร่ทราบเรื่องราวในอดีตนั้นยิ่งนัก
“ขออาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมนี้เพื่อประโยชน์แห่งปัญญาของปวงข้าด้วยเถิด”
เจ้าเมืองนำสัตว์ที่ล่าได้มากินเป็นอาหาร
“ชาดกนั้นเป็นเช่นไรเพคะ”
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงระลึกชาติด้วยบุพเพนิวาสนุสติญาณตรัส
จันทกินรีชาดกขึ้น ไกลจากคงคามหานทีไปทางเหนือ
ยังมีป่าใหญ่ไพรกว้างอันอุดมสมบูรณ์อยู่นอกพระนครไปจรดภูผาสูง เจ้าเมืองผู้ครองนครยังหนุ่มฉกรรจ์ และโปรดปรานการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ฆ่าสัตว์ได้ก็ทำอาหารกินในป่า
คนภูเขาเผ่าพันธุ์กินรีอาศัยอยู่บนภูเขาคันธมาส
“วันนี้อากาศสดชื่นท้องฟ้าสดใส ล่านกมาย่างดีกว่า
ฮะฮ่าฮาฮ้า...มีความสุขจริงๆ”
ครั้งหนึ่งเจ้าเมืองผู้โหดร้ายออกล่าสัตว์ไปยังป่าเชิงเขาคันธมาส
ที่นี่มีสัตว์ป่าชุกชุมเพราะชาวป่าที่อยู่บนภูเขาไม่นิยมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
การมาของนักฆ่าผู้นี้จึงเป็นเรื่องเลวร้ายอันปรากฏขึ้นที่นี่
“อือ..อร่อยจริงๆ ตัวก็ใหญ่ เนื้อก็หวาน”
สามีภรรยาเผ่าพันธุ์กินรีลงมาพักผ่อนยังป่าเบื้องล่าง
บนภูเขาสูงที่ชื่อว่าคันธมาสนั้นอบอวลด้วยกลิ่นสมุนไพรหอมเป็นที่อยู่ของคนภูเขาซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเผ่าพันธุ์กินรี ทุกครอบครัวอยู่
กินกันอย่างมีความสุข ในฤดูฝนจะพากันเก็บตัวอยู่บนนั้น
เข้าสู่ฤดูหนาวถึงจะพากันทยอยกันลงมาหาอาหารยังผืนป่าเบื้องล่าง
กินรีเหล่านี้ยังมีสามีภรรยาคู่หนึ่งวิวาห์อยู่กินกันมาไม่นานนัก
ภรรยาสาวทำพวงมาลัยให้สามีตนเป็นสัญญารักระหว่างกัน
ฤดูหนาวครั้งนี้ทั้งสองเพิ่งลงมาพักผ่อนหย่อนใจด้วยกันเป็นครั้งแรก
ต่างคลอเคลียเจรจาภาษารักไพเราะป่านนกป่าขับเพลงแห่งพงไพร “แม่คุณของพี่
ขอพี่สัมผัสแก้มหอมๆ อีกหน่อยนะจ๊ะ
พี่อยากรู้ว่าดอกไม้ช่อนี้ยังจะสู้กลิ่นแก้มของน้องได้ไหม๊”
“อุ๊ย!..ไม่ได้หรอก พี่นะต้องไปหาดอกไม้มาให้เยอะกว่านี้ก่อนจ๊ะ
น้องถึงจะยอม
เจ้าเมืองนักล่าสัตว์เดินทางผ่านมาและได้พบกับคู่สามีภรรยาเผ่าพันธุ์กินรี
พี่จ๊ะสวมพวงมาลัยนี้ซิ น้องทำให้พี่ถือว่าเป็นพวงมาลัยสัญญาระหว่างเรา
ว่าเราจะมีความสุขด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป
ทุกฤดูเราจะดูแลกันและกันอย่างนี้นะจ๊ะ” “ได้ซิจ๊ะ
พี่สัญญาต่อเจ้าป่าเจ้าเขาเทพดาผู้รักษาป่าไว้แล้วจ๊ะ ว่าจะเป็นกินนรกินรีที่คู่กันจนตายจาก” “พี่อย่าพูดเป็นลางอย่างนี้ซิจ๊ะ ที่นี่ร่มรื่นดีจังเลยนะพี่ นกร้องขับขาน ฟังแล้วมีความสุข พี่ว่าไหม๊จ๊ะ”
ชายหนุ่มเผ่าพันธุ์กินรีถูกยิงด้วยธนูจากฝือของเจ้าเมืองนักล่าสัตว์
“ที่ไหนที่ที่มีน้องอยู่ด้วย พี่ก็มีความสุขทั้งนั้นแหละจ้า” สาวหนุ่มยามหัวใจเบิกบานด้วยความรัก ป่าเขาลำเนาไพรก็กลายเป็นสวรรค์
ทั้งสองขับเพลงแห่งความสุขมาประสานกันเสียงระงมไพร สาวขับร้อง
หนุ่มตีเกราะเคาะไม้เป็นดนตรีโดยไม่มีใครสัมผัสกับภัยร้ายที่พานมาพบเข้าเลย
สักน้อย มหาภัยผู้นี้ก็คือเจ้าเมืองนักล่าสัตว์ที่เคราะห์กรรมชักนำมานี่เอง
หญิงสาวตกใจยิ่งนักที่สามีของตนถูกยิงต่อหน้าต่อตา
“โอ้โฮ้..นางฟ้านางสวรรค์ตกมาอยู่ในป่าหรืออย่างไร
ช่างสวยงามจับใจข้ายิ่งนัก เฮ้ย..นางมีเจ้าของแล้วรึเนี่ย
ขวางหูขวางตาข้าซะเหลือเกิน อย่างนี้ต้องกำจัดทิ้ง
นางงามคนนี้จะได้เป็นของข้า ฮ้า ฮา ฮ่า ๆๆๆๆ” “โอ๊ะ!!” จากความคิดวูบเดียว
เจ้าเมืองก็ทำลายชีวิตชายหนุ่มลงเพียงเพื่อจะแย่งภรรยาเขา
“ว๊าย!..ใคร..ใครทำร้ายพี่” “เจ้าหนีไปเร็วๆ เข้า” “ไม่!...ข้าไม่ไป
ข้าจะอยู่กับพี่”
ชายหนุ่มล้มลงสิ้นใจตายในอ้อมกอดของสาวคนรัก
ความสุขทั้งหมดพลันสลายลง เมื่อหนุ่มชาวภูเขาล้มลงนอนในอ้อมกอดสาวคนรัก
ตัวสั่นระริกอย่างเจ็บปวด “ฮือๆๆ พี่ต้องไม่เป็นไรนะ
แล้วน้องจะช่วยพี่ยังไงดี ฮือๆๆๆ” นางงามกรีดร้องปานถูกกรีดดวงใจในบัดนั้น
“ฮือๆๆ มันผู้ใดช่างใจร้ายนัก ข้าและสามีไม่เคยทำชั่วใยต้องรับกรรมเช่นนี้
ฮือๆๆ” “เจ้าจะคร่ำครวญไปใยเล่าน้องคนสวย”
เจ้าเมืองนักล่าสัตว์พยายามเกลี้ยกล่อมหญิงสาวให้ไปใช้ชีวิตกับตนในเมือง
“เจ้าคนใจชั่ว เราไปทำอะไรให้เจ้า ทำไมต้องเอาชีวิตกันด้วย”
“ตัดใจเถิดคนงามเอ๋ย ทิ้งเจ้านั้นเสียแล้วไปเป็นท่านผู้หญิงของข้าซะเถอะ
ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี” “ไปตามทางของเจ้าไป คนใจบาปหยาบช้า
สิ้นชายผู้นี้ไปเราก็ไม่ปรารถนาสิ่งใดอีกแล้ว”
“เจ้าไม่สนใจแน่นะทั้งเสื้อผ้าแพรพันอย่างดีเลิศ เพชรนิลจินดาข้าทาสบริวารอีกมากมายในเวียงวังของข้านะ ฮ้า!...”
เจ้าเมืองถูกหญิงสาวปฏิเสธเจ้าเมืองก็จากไปอย่างไม่ใยดี
“ปล่อยเราไว้ในป่านี้เถอะ นอกจากเขาแล้วเราไม่ขอแลกสิ่งใดอีกเลย”
“ฮึ!..เล่นตัวจริงๆ เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า
จะอยู่เป็นเมียลิงค่างกลางป่าต่อไปก็ตามใจ
นางในรั้วในวังสวยกว่าเจ้ามีตั้งเยอะตั้งแยะ ข้าไม่ง้อก็ได้” เจ้าเมืองผู้หยาบช้าหันหลังกลับไปทิ้งให้สาวกินรีโศกเศร้าคร่ำครวญและรำพรรณถึงชายผู้เป็นที่รักจนน้ำตาเหือดแห้งอยู่อย่างนั้น
หญิงสาวอ้อนวอนต่อเทพผู้ทรงฤทธิ์ขอชีวิตสามีกลับคืนมา
“ฮือๆ ดอกไม้ทั้งป่า น้ำตกลำธารใสดูไร้ค่าไปสิ้นแล้ว
เสียงนกขับร้องกับเรไรที่เคยกล่อมเราสอง
บัดนี้มิได้ไพเราะน่าฟังอีกแล้วเช่นกัน ฮือๆๆ เทวดาอา
รักเจ้าขา ข้าน้อยขอวิงวอน
ขอเทพผู้ทรงฤทธิ์นำชีวิตคนรักแห่งข้ากลับมาด้วยเถิด
เรามิควรต้องมาจากกันในวัยหนุ่มสาวเช่นนี้ ฮือๆๆ”
ทุกข์เวทนานั้นสะท้อนสะท้านไปทุกอณูของพงไพร
เทพพิทักษ์ป่าทรงหลั่งน้ำอมฤตพร่างพรมลงบนร่างของชายหนุ่ม
และความรักรักบริสุทธิ์นี้ก็เป็นที่เห็นใจยิ่งของเทพเจ้าองค์หนึ่ง
อมรินทร์เทพหรือพระอินทร์ได้รับรู้ความทรมารแห่งดวงใจนั้น
จึงได้นิรมิตรกายปรากฏเป็นเทพพิทักษ์ป่าขึ้นเบื้องหน้า “ในที่สุด
คำภาวนาของข้าน้อยก็ได้รับเมตตา ท่านเจ้าขาช่วยสัตว์ผู้ยากให้พ้นทุกข์ด้วย”
องค์อินทร์ให้สาวงามตั้งจิตเป็นกุศล อธิษฐานขอทำความดีไปตลอดชีวิต
ร่างกายของชายหนุ่มกลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วทรงรินน้ำอมฤตหลั่งลงประพรมร่างของกินนรหนุ่ม
ด้วยอานภาพแห่งเทพก็บังเกิดรุ้งรัศมีเรืองรองขึ้นอย่างสวยงาม
ครอบคลุมร่างไร้ชีวิตนั้น
และเมื่ออมรินทร์เทพโอมอ่านพระเวทย์อีกครั้งร่างอันแน่นิ่งแข็งเป็นศพของ
หนุ่มเคราะห์ร้ายก็นุ่มนิ่มมีสีสันแห่งชีวิตขึ้นทันที “เราคืนชีวิตให้แล้ว
จงมีความสุขสวัสดีและอย่าได้ประมาทใช้สติพิจารณาทุกสิ่งให้ดีเถิด”
เทพพิทักษ์ป่าได้กล่าวเตือนว่าป่าเบื้องล่างล้วนมีอันตรายมากมาย
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย แผลจากการโดนยิงหายไปแล้ว โอ้..ข้าเหมือนเกิดใหม่”
“มหัศจรรย์เทวะ ท่านคืนชีวิตที่รักข้าคืนมาแล้ว”
“นี่เพราะอานุภาพแห่งรักและภักดีของผู้เป็นคู่บุพเพสันนิวาสกัน
เราจึงใช้น้ำทิพย์ของสวรรค์ช่วยเหลือให้
ขอให้ท่านทั้งสองครองรักกันจนหมดอายุขัยในชาติภพนี้เถิด
จงกลับไปอยู่บนภูเขาคันธมาสที่อยู่ของเจ้า
แล้วอย่าได้ลงมาข้างล่างนี้อีกเลย
สองสามีภรรยากลับขึ้นภูเขาคันธมาสอย่างมีความสุข
ความอุดมสมบรูณ์ข้างล่างนี้ มีผู้คนใจบาปยื้อแย่งแข่งกันมากมายนัก” กาล
ครั้งนั้น
จึงเป็นครั้งเดียวที่สองสามีภรรยาลงจากภูเขามาหาพืชพันธ์สมุนไพรยังแผ่นดิน
เบื้องล่าง เพราะชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปของคู่รักนี้
คือความสุขที่รออยู่บนภูเขาสูงที่ได้จากมานั่นเอง “พักก่อนไหมจ๊ะ
เจ้าคงจะเหนื่อยแล้ว” “ไม่หรอกจ้า เรารีบกลับกันดีกว่าพี่คงเหนื่อยมากแล้วเดี๋ยวน้องนวดให้นะจ๊ะ”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงอริยสัจสี่
ทั้งสองครองชีวิตอยู่คู่ในศีลธรรมจน
หมดอายุขัยจากชาติภพนั้นไปในเวลาใกล้เคียงกัน สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตรัสชาดกจันทกินรีจบแล้วทรงแสดงอริยสัจสี่
พระนางยโสธราพิมพาเข้าถึงในพระธรรมนั้นโดยถ่องแท้ได้สำเร็จโสดาบัน
ในสมัยพุทธกาลนี้ เจ้าเมืองผู้โหดร้าย กำเนิดเป็น พระเทวทัต
พระอินทร์จอมเทพ กำเนิดเป็น พระอนุรุท
นางกินรีชาวป่า กำเนิดเป็น พระนางยโสธราพิมพา
กินนรหนุ่ม เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า
http://dmc.tv/a11710