ธิดาเศรษฐีสตรีผู้เลอโฉม แต่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเจ้าชู้
ตักกบัณฑิตชาดกบอกเล่าถึงเหตุแห่งความทุกข์อันเนี่ยงมาจากกิเลสลุ่มหลง ดังเรื่องราวในอดีตชาติ พระชาติหนึ่งของพระพุทธองค์บังเกิดขึ้นในที่พักสงฆ์ พระอารามเชตวัน กรุงสาวัตถี ภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งเมื่อออกบิณฑบาตได้พบกับสตรีผู้เลอโฉมเข้าในเช้าวันหนึ่ง
ภิกษุหนุ่มออกบิณฑบาตและได้พบกับสตรีผู้เลอโฉม
เนื่องจากภิกษุรูปนี้ยังมีพรรษาในเพศบรรพชิตไม่มากนักทำให้ไม่สามารถละกิเลสได้โดยเกิดความต้องจิตพิศมัยในความงามของสตรีนางนั้นเข้า "โอ้!น้องหญิงเธอช่างอ่อนหวานรูปโฉมงดงามเหลือเกินใจหวั่นไหวไปหมดแล้ว" วันคืนผ่านไปความรักความลุ่มหลงยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
ภิกษุหนุ่มเฝ้าคิดถึงแต่สตรีที่ตนได้พบ
พระภิกษุหนุ่มเฝ้าแต่คิดถึงแม่นางผู้เลอโฉมจนมิอาจปฏิบัติกิจสงฆ์ได้ แม้พระวิหารอันร่มเย็นไม่อาจทำให้จิตใจท่านเป็นสุขได้เลย “เฮ้อ..ความรักช่างกัดกร่อนหัวใจเรายิ่งนัก ทำอย่างไรก็ไม่สามารถลืมภาพน้องนางคนนั้นได้เลย นี่แหละที่พระพุทธองค์ตรัสไว้มีรักที่ไหนย่อมมีทุกข์ที่นั้น ช่างบีบหัวใจจริงๆ เลย"
ภิกษุหนุ่มได้ล้มป่วยเพราะทุกข์ใจถึงสตรีรูปงาม
เมื่อกิเลสเข้าครอบครองจิตใจ ความต้องการหาแสวงหาสัจจธรรมก็ถูกทำลายลงไปด้วย” “รอยยิ้มของน้องหญิงนั้นช่างน่ารักสดใสไม่ว่าจะอยู่ในอริยบทใด ก็น่าชวนมองหลงใหลยิ่งนัก น้องหญิงเธอคือความต้องการอันแท้จริงมิใช่สิ่งอื่นใดอีกแล้ว ความงามของน้องทำให้ความสวยงดงามอื่นใดในโลกหมดค่าลงไป โอ๊ย..บีบหัวใจจริงๆ เลย”
พระบรมศาสดาทรงโปรดภิกษุหนุ่มให้เห็นในเหตุแห่งทุกข์ที่เกิด
ความทุกข์นั้นเผาใจจนภิกษุนั้นล้มป่วย ไม่อาจปฏิบัติกิจใดๆ ได้ เอาแต่นอนโทรมอยู่หลายวันจนพระกัลยาณมิตรที่พบเห็นมิอาจทนนิ่งดูดายได้พากันมานิมนต์ไปยังกุฎฏิที่ประทับของพระองค์ “ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ เราไปเฝ้าพระศาสดาให้ทรงช่วยเถิด” “นั่นนะสิท่านอย่าได้มัวเมากับกิเลสอยู่เลยความงามเป็นแค่ของภายนอก”
ธิดาเศรษฐีสตรีผู้เลอโฉม พรั่งพร้อมในทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ
เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบก็ทรงตักเตือน “ดูก่อนภิกษุธรรมดาเมื่อหญิงนั้นเป็นเหตุแห่งความทุกข์เช่นนี้เหตุใดเธอยังปรารถนาอีกเล่าบัณฑิตในกาลก่อนก็เคยพบโทษจากหญิงไม่ดีมาแล้ว” แล้วพระองค์ก็ทรงตรัสชาดกครั้งเสวยพระชาติเป็นฤาษีนามว่า “ตักก” ให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจดังนี้
ธิดาเศรษฐีผู้เลอโฉม มีนิสัยเจ้าอารมณ์ ปากร้าย
นางงามผู้หนึ่งเกิดในตระกูลเศรษฐีสมบูรณ์พร้อมทั้งทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติต่อหน้าบิดาเธอนุ่มนวลดั่งเทพธิดาน่ารักน่าทะนุถนอม “ลูกสาวของเรานะสวยกว่าใครในพาราณสีแล้ว” แต่เมื่อลับสายตาผู้เป็นพ่อแล้วเธอกลับกลายเป็นอีกคนทั้งเจ้าอารมณ์ โกรธง่าย ซ้ำยังปากร้าย มือไวบ่าวไพร่ในบ้านล้วนถูกนางด่าว่าและทุบตีให้เจ็บปวดใจอายและอยู่เสมอ
ธิดาเศรษฐีและบรรดาสาวใช้พากันไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคา
“นอกจากแก่แล้วยังโง่อีกเหรอ ข้าบอกว่าอย่าเอาของมาวางตรงนี้มันเกะกะเวลาข้าเดินออกมา บอกแล้วไม่จำเดี๋ยวก็ตบให้หายแก่เลย” “ผมกลัวแล้วล่ะครับคุณหนู อย่าๆ ตบตีข้าน้อยเลย” วันหนึ่งที่ธิดาเศรษฐีและบริวารพากันไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคาตั้งแต่บ่ายถึงจนกระทั่งเย็นจนขณะนั้นฝนได้ตั้งเค้าอย่างรวดเร็ว
ธิดาเศรษฐีเล่นน้ำจนกระทั่งฝนตกหนัก ก็ยังไม่ยอมขึ้นจากน้ำ
“คุณหนูรีบขึ้นมาเถอะค่าฝนตั้งเค้าแล้ว” “อย่ามาออกคำสั่งกับชั้นนะ ชั้นจะเล่นน้ำต่อใครจะทำไม” “อย่าไปสนใจเลยพวกเรา ปล่อยให้เล่นคนเดียวเถอะ เรานะกลับดีกว่า” แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น อยู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรงแม่น้ำคงคาบังเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่พัดมาตรงที่ที่ธิดาเศรษฐีเล่นน้ำอยู่
แม่น้ำคงคาบังเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่ พัดร่างธิดาเศรษฐีไปกับสายน้ำ
คลื่นกระแทกกับร่างนางอย่างแรง จนนางทรงกายไม่ไหวพัดจมลงไปกับสายน้ำ “ช่วยด้วย ๆ ช่วยเราด้วย ช่วยด้วย” เมื่อน้ำทะลักล้นมาอย่างแรงร่างของหนูแสนสวยก็ถูกกระชากลอยหายไป เมื่อพายุสงบลงธิดาเศรษฐีก็พบว่าได้พลัดมาถึงป่าเขาเสียแล้ว
ธิดาเศรษฐีถูกน้ำซัดผ่านมาหน้ากระท่อมฤาษี
แม้ร่างกายจะอ่อนเพลียและเหน็ดเหนื่อยเพียงใดแต่นางก็สามารถพยุงกายชีวิตมาได้เป็นเวลาครึ่งคืน “โอ้! นั้นที่พักของใครกันหรือว่าเรารอดชีวิตแล้วเค้าจะมองเห็นเรามั๊ยนะ” ตลอดเวลาที่ลอยอยู่ในน้ำนางพยายามร้องให้คนช่วย แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงนางเลย
ฤาษีให้ที่พักอาศัยแก่ธิดาเศรษฐี
จนกระทั่งนางลอยมาถึงหน้าศาลาวัดของฤาษีหนุ่มตนหนึ่ง ก็เกิดโชคดีที่ฤาษีได้ยินเสียงนาง จึงออกมาดูเมื่อเห็นหญิงลอยน้ำอยู่ด้วยอาการสิ้นเรี่ยวแรงจึงออกไปช่วย “แม่นางทำใจดี ๆไว้ชั้นจะลงไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ” ฤาษีหนุ่มดึงคุณหนูรูปงามขึ้นสู่ฝั่งให้ชีวิตใหม่แก่เธออีกครั้งในตอนนั้นธิดาเศรษฐีดูน่าสงสารนักเนื้อตัวเย็นเฉียบปากคอสั่นเพราะความหนาว
ฤาษีหนุ่มพ่ายแพ้ต่อกิเลสได้เกิดหลงรักธิดาเศรษฐีและอยู่กินด้วยกัน
“ยื่นมือมาสิชั้นจะลงไปช่วยดึงเจ้าขึ้นมาเอง” “ข้าหนาวเหลือเกิน” “ เจ้านะนอนที่ศาลานี้แล้วกันชั้นนะไปนอนข้างนอก” “ขอบคุณมากท่านฤาษีท่านช่างมีน้ำใจกับข้ายิ่งนัก” ธิดาเศรษฐีแสนสวยฟื้นตัวแข็งแรงด้วยที่พักและอาหารของฤาษีตั้งแต่วันแรก แต่จนกระทั่งเข้าวันที่สามนางก็ไม่มีทีท่าที่จะจากไป
บัณฑิตหนุ่มใช้เวลาว่างสั่งสอนอบรมผิดชอบชั่วดีแก่ชาวบ้าน
ฤาษีตนนี้ทนได้อย่างไรนะเราอุตส่าห์พักอยู่ด้วยตั้งหลายวันยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่อีกเองก็ออกจะสวยดูซิจะทนไปได้สักกี่น้ำ บุตรีใช้เสน่ห์มายาเข้าก่อกวนจนสุดท้ายบารมีที่บำเพ็ญมาขาด ฤาษีหนุ่มต้องพ่ายแพ้หลงรักนางชนิดห้ามใจไม่ไหวและแล้วทั้งสองก็อยู่กินอย่างสามีภรรยา
ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างราบเรียบและสงบสุข
ต่อมาอีกไม่นานธิดาเศรษฐีทนชีวิตที่แสนเงียบเหงาในป่าไม่ไหวก็อ้อนฤาษีหนุ่มผู้เป็นสามีย้ายเข้าไปอยู่ในเขตเมือง ฤาษีหนุ่มกับเมียสาวก็พากันไปปลูกกระท่อมอยู่ที่ชายแดนแห่งหนึ่ง ฤาษีหนุ่มเปลี่ยนตัวเองจากนักบวชมาเป็นพ่อค้านมเปรี้ยว เมื่อว่างจากทำงานเข้าก็ยังเอื้อเฟื้อต่อชาวบ้าน ด้วยการอบรมสั่งสอนให้ทุกคนรู้ผิดชอบชั่วดี
มีโจรป่าบุกเข้าปล้นหมู่บ้าน
อะไรเป็นบุญอะไรเป็นบาปเป็นที่นับถือโดยทั่วไป ธิดาเศรษฐีกับฤาษีหนุ่มใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ต่อมาอีกไม่นานชะตาร้ายก็มาเยือนครานั้นมีโจรป่าบุกเข้าปล้นหมู่บ้านกวาดทรัพย์สมบัติของชาวบ้านไปมากมายรวมทั้งได้ฉุดธิดาของเศรษฐีไปด้วย
ธิดาเศรษฐีถูกโจรลัพกพาตัวไปด้วย
เมื่อมาอยู่รังโจรธิดาเศรษฐีได้รับการบำรุงบำเรอกับนายโจรอย่างดีจนติดใจไม่อยากกับไปเป็นเมียของบัณฑิตอีก ธิดาเศรษฐีได้วางแผนให้คนส่งข่าวแก่ตักกบัณฑิตว่านางจำใจอยู่กับนายโจรในป่านี้ทุกวันช่างเป็นไปด้วยความทุกข์ใจแสนสาหัสให้บัณฑิตรีบหาทางพานางหนีไปด้วย
ธิดาเศรษฐีได้รับการบำรุงบำเรอจากนายโจรจนลืมสามีตน
“ตาแก่ชั้นให้แกร้อยหนึ่งฝากไปบอกสามีชั้นให้หน่อยแต่อย่าปากโป้งไปบอกใครนะไม่งั้นชั้นแกตายแน่” เมื่อบัณฑิตได้ข่าวจากเมียสาวก็ลอบเข้าไปในรังโจรเพื่อพานางหนีในอุบายที่นางวางไว้ “ท่านพี่ๆ ซ่อนตัวอยู่ในนี้ก่อนนะพอค่ำๆ พอพวกโจรออกไปปล้นเราค่อยหนีไปพร้อมกัน”
ธิดาเศรษฐีได้วางแผนลวงสามีมาฆ่า
คนนำทางพาเขาไปซ่อนตัวในยุ้งข้าวตามที่นัดไว้ ไม่ทันพลบค่ำหญิงนางสารพัดพิษก็ไปบอกแก่นายโจรสามีใหม่ว่ามีศัตรูมาซ่อนตัวในยุ้งข้าว “ท่านพี่รีบไปจัดการมันสิค่ะ ใครก็ไม่รู้น่ากลัวๆ” “อย่ากลัวเลยเดี๋ยวพี่เนี่ยจะไปจัดการมันให้ มันซ่อนตัวอยู่ในยุ้งข้าวใช่มั๊ย มันกล้ามาแหย่หนวดเสือเลยรึ”
บัณฑิตหนุ่มสามีของธิดาเศรษฐีถูกจับเฆี่ยนอย่างไม่ปราณี
โจรป่าจับตัวตักกบัณฑิตไว้ เมื่อพบว่าไม่มีหอกดาบติดตัวจริงจับมัดไว้ แล้วพลัดกันเปลี่ยนพลัดกันเฆี่ยนตีก่อนจะฆ่าทิ้ง แม้บัณฑิตจะเฆี่ยนตีมากเท่าใดก็จะร้องออกมาแค่ 4_คำ จนน่าประหลาดใจ โกรธง่าย อกตัญญู ส่อเสียด คิดร้าย ตักกบัณฑิตเล่าให้นายโจรฟังตั้งแต่แรกพบกับเมียสาวและแผนการร้ายของนางที่ทำให้เขาต้องมาถูกพวกโจรจับไว้และเฆี่ยนตี
นายโจรสงสัยในคำพร่ำพรรณาของบัณฑิต จึงปล่อยตัวและสอบถาม
“นางคนนี้มันช่างเลวจริงๆ ตักกบัณฑิตทั้งช่วยชีวิต ทั้งเลี้ยงดูนาง นางยังคิดฆ่าได้ ต่อไปน่ะ นางคงหาทางฆ่าเราได้เหมือนกัน คนอย่างนี้อยู่ต่อไปก็หนักแผ่นดิน”นายโจรสามีใหม่ตัดสินใจกำจัดทิ้ง จึงวางแผนเสร้งไปพาเมียสาวมายังพรานทหาร “มาสิจ๊ะเมียรักข้าจับศัตรูที่เจ้าได้แล้วนะ เดี๋ยวข้าจะผ่าอกมันให้เห็นกับตาเลย ดีมั๊ยจ๊ะ?
นายโจรได้พาธิดาเศรษฐีไปยังลานที่บัณฑิตหนุ่มถูกมัดจับไว้
“ดีจ๊ะ ฆ่าให้ตายเลยนะ ไม่งั้นน่ะมันจะกลับมาทำร้ายเราได้นะค่ะท่านพี่” ธิดาเศรษฐีดึงไปจิกศีรษะดึงแขนตักกบัณฑิตให้แหงนคอรอคมดาบของนาโจรสามีใหม่อย่างเหี้ยมโหด “เร็วสิจ๊ะท่านพี่ข้าน่ะเตรียมท่าเหมาะไว้ให้ท่านพี่ลงดาบแล้ว เอาแค่ครั้งเดียวให้ตายเลยนะ
ธิดาเศรษฐีจับคอสามีเก่าให้สามีใหม่ฆ่า
“ทำไมเจ้าถึงทำกับเราได้ เจ้าลืมความรักของเราแล้วหรือ” “อย่าพูดมากนักเลยน่า รำคาญจริงๆ เลย” “เอายังจะลงดาบแล้วนะ เมียรักเจ้าเองก็ยืนนิ่ง ๆไว้นะ จับให้ดีๆล่ะ” วินาทีนั้นธิดาเศรษฐีผู้เลอโฉมก็เจ็บแปลบเข้าที่เนินอกถึงหัวใจแทนที่คมดาบจะผ่าร่างตักกบัณฑิตและลากคมลึกถึงก้อนหัวใจธิดาเศรษฐีผู้เลอโฉม
ธิดาเศรษฐีโดนนายโจรฟันเข้าที่เนินอกถึงหัว
“ทำไมๆท่านพี่ข้าน้องทำไม” “คนชั่วอย่างเจ้ามันต้องตอบแทนด้วยความตาย” “ท่านทำร้ายนางทำไม” “ท่านบัณฑิตข้าต้องขอขมาที่ข้าได้ล่วงเกินท่านไป” “ข้าให้อภัยท่าน” ตักกบัณฑิตสอนหลักธรรมสำหรับปุตุชนให้นายโจรฟังก่อนอำลาไปยังป่าใหญ่เพื่อบำเพ็ญเพียรเป็นฤาษีต่อจนสิ้นอายุขัย
บัณฑิตหนุ่มได้สั่งสอนนายโจรก่อนที่จะร่ำลาจากไป
นายโจรนั้นเมื่อได้ฟังคำสั่งสอนตักกบัณฑิต จึงตามไปในป่าบวชเป็นฤาษี จนสำเร็จอภิญญา 5_สมาบัติ 8_เมื่อพระพุทธองค์ตรัสชาดกนี้จบแล้วก็ทรงตรัสกับภิกษุที่หลงใหลกับรูปโฉมของนางงามจนลืมกิจสงฆ์ว่า “คนไม่ดีมักโกรธง่าย อกตัญญู ส่อเสียด คอยแต่จะทำลาย ดูก่อนภิกษุเธอจงประพฤติพรหมจรรย์เถิดจะไม่คลาดความสุขเป็นแน่
โกธนา อกตญญ จ ปิสุณา จ เภทิกา
พรฺหมฺจริย จร ภิกขุ โส สุข น วิหาหิสิ
นายโจร กำเนิดเป็น พระอานนท์
ตักกบัณฑิต เสวยพระชาติเป็น พระพุทธเจ้า